
“เดปอถู่” สายสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์ ธรรมชาติ และสิ่งเหนือธรรมชาติ วันที่ 4 กันยายน 2561
ชาวกะเหรี่ยงเป็นชนเผ่าหนึ่งที่มีภูมินิเวศอยู่พื้นที่แถบด้านตะวันตกของประเทศไทย นับว่ามีองค์ความรู้ภูมิปัญญาในการจัดการป่า มีวิถีชีวิตที่สอดคล้องเอื้อต่อป่าการใช้ทรัพยากรป่า ซึ่งปรากฏให้เห็นในบทลำนำ บทเพลง พิธีกรรมต่างๆ ด้วยเหตุนี้เราจึงนำความเชื่อและวิถีปฎิบัติการบางพิธี กลับมาฟื้นฟูพิธีกรรม”เดปอถู่” เพื่อให้กลับมารับใช้วิถีชีวิตซึ่งเอื้อต่อการดำรงชีวิตในป่า
“เดปอถู่” เป็นป่าทางความเชื่อที่ชาวกะเหรี่ยงถือปฏิบัติกันมาเป็นเวลาช้านาน กล่าวคือ เมื่อเด็กแรกเกิดผู้เป็นพ่อจะนำรกหรือ”เด”บรรจุในกระบอกไม้ไผ่มัดปากกระบอกพันด้วยผ้า รุ่งเช้าผู้เป็นพ่อจะไปผูกติดกับต้นไม้ โดยจะคัดเลือกต้นไม้สมบูรณ์และมีความแข็งแรง ต้นไม้นี้เรียกว่า “เดปอถู่” เชื่อว่า ขวัญของเด็กผู้นั้นจะอยู่กับต้นไม้นั้นตลอดไป














“เดปอถู่” จะได้รับการดูแลคุ้มครองไม่ให้ผู้ใดตัดหรือโค่น หากต้นไม้ถูกตัดหรือโค่นลงเชื่อว่าขวัญของคนๆ นั้นจะไม่มีที่อยู่ จะทำให้เจ้าของ “เด” เจ็บไข้ได้ป่วย ผู้ที่ใดฝ่าฝืนไม่ว่าจงใจหรือไม่ก็ตามจะถูกปรับโทษด้วยการต้องไปขอขมาลาโทษเพราะถือว่าเป็นการหลบหลู่ไม่ให้เกียรติกับเจ้าของ “เด” ด้วยเหตุนี้ในชุมชนกะเหรี่ยง จะได้พบเห็นต้นไม้ที่ผูกรกกับเด็กจำนวนมากอยู่รอบๆหมู่บ้าน “เดปอถู่” ไม่ได้มีความหมายเพียงแค่การนำ “เด” ของเด็กมาผูกติดกับต้นไม้เท่านั้น แต่มีความเกี่ยวข้องถึงสภาพแวดล้อม การเคารพต่อสิ่งมีชีวิตต่อสิ่งรอบข้างและการนำ “เด” หรือ “รกเด็ก”ไปผูกกับต้นไม้เป็นประเพณีที่ไม่ขัดกับหลักศาสนาใดๆ
สำหรับปัจจุบันคนรุ่นใหม่มีความเข้าใจ “เดปอถู่”น้อยลง เนื่องจากไม่มีการสืบทอด คนรุ่นใหม่ไม่ได้ให้ความสำคัญต่อคุณค่าของประเพณี วัฒนธรรมใหม่ๆได้หลั่งไหลเข้ามาแทนที่ คุณค่าความเชื่อถือปฏิบัติได้ลดความสำคัญไปเห็นได้ชัดเจน กฎเกณฑ์ได้ถูกนำมาใช้ในสังคมที่เป็นทางการมากขึ้น ยึดถือกฎหมายบ้านเมืองเป็นหลักสำคัญเพียงข้างเดียว ลืมไปว่าความสำคัญของกฎจารีตประเพณีนั้นมีความสำคัญยิ่งในการดำเนินชีวิต คนเลือกที่ไขว่คว้าสิ่งใหม่ๆ นวัตกรรมใหม่ๆแทนที่ของเดิมเร็วจนเกินกว่าที่จะเข้าใจว่าสิ่งใหม่ๆเหล่านั้นเหมาะกับวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชนเผ่าตนเองหรือไม่อย่างไร การที่ป่าไม้ถูกทำลายไปมากเป็นเพราะความต้องการของคนไม่พอ ทุกคนต้องการสะสมเอาเป็นของตนเอง จนลืมคุณค่าของธรรมชาติ คนเริ่มที่จะไม่กลัวเจ้าป่า เจ้าเขา ไม่เชื่อว่าสรรพสิ่งมีเจ้าของ ทำให้การกอบโกย มองไม่เห็นคุณค่าของความดีงามทางวัฒนธรรมตนเอง ความไม่ยำเกรงและไม่เคารพต่อธรรมชาติเช่นนี้นำมาซึ่งความหายนะมากมายตามที่ปรากฏ
มูลนิธิภูมิปัญญาชาติพันธ์ร่วมกับ.ชุมบ้านห้วยอีค่างเล็งเห็นว่า ความสำคัญของการอยู่ร่วมกันของคนกับป่า(ธรรมชาติ)นั้นจุดสำคัญคือการรู้ถึงคุณค่าของธรรมชาติ ความสัมพันธ์กันระหว่าคนกับป่า(ธรรมชาติ) คนกับสิ่งสูงสุด และคนกับคน ดังนั้น จึงมีความตั้งใจที่จะฟื้นฟูประเพณีอันดีงามของชาวกะเหรี่ยงให้มีการสืบทอดต่อไป เป็นการเพิ่มพื้นที่ป่าตามความเชื่อ ป่าทางจิตวิญญาณในชุมชนกะเหรี่ยง ซึ่งเป็นสิ่งที่บรรพบุรุษชนเผ่าได้ปฏิบัติกันมาเป็นเวลานานเพื่อเป็นการอนุรักษ์ทรัพยากรสิ่งแวดล้อม ดังนั้นจึง ฟื้นฟูจารีตที่มีคุณค่าให้คงอยู่ต่อไป
- วัตถุประสงค์
- 1. เพื่อสืบสานวัฒนธรรมและฟื้นฟูพิธีกรรมการจัดการทรัพยากรธรรมชาติตามจารีตประเพณี“เดปอถู่”
- 2. เพื่อสร้างสัมพันธ์อันดีระหว่างองค์ภาคีร่วมจัดกิจกรรมฯ อันนำไปสู่การพัฒนาที่แนวทางความต้องการร่วมกันในอนาคต