• +66 (0) 989965264
  • info@wisethailand.net
  • 83, หมู่ 7, ซอย 5, สันพระเนตร, สันทราย, เชียงใหม่, 50210, ประเทศไทย

โครงการ ฟื้นวิถีวัฒนธรรมชุมชนปกาเกอะญอ

ตามธรรมเนียมของชุมชนปกาเกอะญอในอดีตนั้น  มีวิถีที่ผูกพันกันระหว่างคนกับคน     คนกับธรรมชาติ  และคนกับสิ่งเหนือธรรมชาติอย่างแนบแน่น  โดยเฉพาะในความผูกพันระหว่างคนกับธรรมชาตินั้น ได้มีการแสดงออกเป็นรูปธรรมอย่างชัดเจนผ่านป่าความเชื่อตามจารีตของ  ปกาเกอะญอหลายอย่าง อาทิเช่น ป่าต่าเดโดะ  ป่าเดะหมื่อเบอ  ป่าพื้นที่เก่อชอโรแม เป็นต้น และป่าที่สำคัญอีกป่าที่ไม่พูดถึงไม่ได้ คือ ป่าเดปอถู่ หรือป่าสะดือ เป็นป่าเกิดสำหรับคนปกาเกอะญอ เป็นการแจ้งเกิดต่อสรรพสิ่งบนโลกนี้ด้วยการถ่อมและแสดงความคาราวะขอเป็นส่วนหนึ่งชีวิตเล็กๆ ของสรรพสิ่ง   เมื่อคนในชุมชนมีรกหรือสะดือมารวมอยู่ในที่เดียวกัน จิตใจและวิญญาณของคนในชุมชนก็อยู่ที่เดียวกัน  แม้ว่าบางเวลาสมาชิกในชุมชนอาจต้องจากชุมชนไปที่ห่างไกล สู่เมืองใหญ่ สู่ทะเล แต่เมื่อรกหรือสะดือเกิดของตนเองอยู่ที่ชุมชน  ความผูกพันต่อชุมชนย่อมตัดไม่ขาด จนคนปกาเกอะญอบางคนกล่าวว่า ถึงแม้ว่าจะต้องเดินทางไปไกลจากชุมชนเพียงใด แต่ขอกลับมาตายที่บ้านเกิดของตนเอง อาจกล่าวได้ว่า…

โครงการวิจัยสมุนไพรพื้นบ้านในภูมิปัญญาคนปกาเกอะญอ

ได้รับทุนสนับสนุนจาก RNIP (Regional Networking for Indigenous People) ในการดำเนินโครงการวิจัยสมุนไพรพื้นบ้านในภูมิปัญญาคนปกาเกอะญอ ตั้งแต่ปี2006 จนถึงปัจจุบัน จนสามารถรวบรวมองค์ความรู้เกี่ยวกับสมุนไพรในวิถีของชุมชนปกาเกอะญอเป็นหนังสือภาษาปกาเกอะญอออกมาเล่มหนึ่ง ทีมีชื่อว่า “เส่ กี่ หว่า แซะ เล่อ เกอะญอ หล่อ เก่อ วอ”(สมุนไพรในวิถีชุมชนปกาเกอะญอ)  ซึ่งมีเลขที่กำกับการพิมพ์ที่ ISBN 978- 974- 09-3649 – 7 โดยตีพิมพ์ออกมาเผยแพร่ในชุมชนปกาเกอะญอเพื่อเป็นแนวทางในการศึกษาและใช้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพของชุมชนปกาเกอะญอที่สนใจ  และก่อเกิดเครือข่ายสมุนไพรในชุมชนริมฝั่งแม่น้ำสาละวิน

โครงการฟื้นฟูแหล่งต้นน้ำ เพื่อการเกษตรแบบสหภูมิปัญญา

ลำห้วยเส่ หว่า หล่า โกละเป็นสายน้ำที่หล่อเลี้ยงชุมชนปกาเกอะญอแห่งมูเจะคีหรือพื้นที่ขุนแจ่ม 19 หมู่บ้าน ในอำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ เพราะกว่าร้อยละ 90 ชาวบ้านต้องอาศัยน้ำจากลำห้วยเส่ หว่า หล่า โกละ ในการทำนา  แต่ในช่วงสิบปีที่ผ่านมาชาวบ้านต้องประสบปัญหาขาดแคลนน้ำเนื่องจากลำห้วยเกิดการตื้นเขิน  สาเหตุเกิดจากดินถล่มบริเวณต้นน้ำทำให้ดินทรายถูกพัดพามาทับถมลำห้วยจนเกิดตื้นเขินและเมื่อถึงเวลาน้ำหลากกระแสน้ำยังพัดพาดินทรายไหลไปกองทับถมที่นาของชาวบ้าน  ทำให้สูญเสียพื้นที่ทำนา ไม่สามารถปลูกข้าวได้  ส่งผลกระทบต่อปากท้องของชาวบ้านจึงเป็นที่มาของการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมท้องถิ่นโดยการนำองค์ความรู้ภูมิปัญญาของชาติพันธุ์ต่างๆมาผสมผสานความรู้สมัยใหม่  หรือที่เรียกว่า“สหภูมิปัญญา”  เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่ มูลนิธิภูมิปัญญาชาติพันธุ์นำมาใช้ในการฟื้นฟูและอนุรักษ์ทรัพยากร ดิน น้ำ ป่า  ต่อมาได้ การดำเนินโครงการในพื้นที่นี้ควรทำอย่างต่อเนื่องเพื่อเป็นโครงการนำร่อง (Pilot Project)…